ในชีวิตประจำวันเราเลือกทานอาหารแบบไหน หลายๆ คนก็จะตอบว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพ  แล้วแบบไหนล่ะ ที่เรียกว่าดีต่อสุขภาพ ซึ่งหลายๆ คนจะตอบว่าก็ทานอาหารให้ครบ 5 หมุ่ ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าการทานอาหารครบ 5 หมู่ น่าจะไม่เพียงพอ ซึ่งในตอนนี้มันจะมีอาหารในกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อที่จะฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย 

เรามาดูอาหารหลักครบ 5 หมู่ก็ได้แก่ แป้ง น้ำตาล ไขมัน  วิตามินและเกลือแร่  พวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต อยากรู้อะไรคือคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งบ้าง  ลองเอาเข้าในปากแล้วเคี้ยวๆ เมื่อโดนน้ำลายก็จะมีรสหวาน ก็สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรต เพราะคาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยด้วยเอนไซม์ ที่มีชื่อว่า อะไมเลส แล้วได้เป็นน้ำตาล  ซึ่งน้ำตาลที่ร่างกาย นำเอาไปใช้ได้อย่างรวดเร็วนั่นคือ น้ำตาลกลูโคส  นั่นเอง  ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ให้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง็ถือว่าเป็นข้อดี แต่การบริโภคที่มากเกินไปของคาร์โบไฮเดรต จะเกิดผลเสียได้ เช่นเดียวกันอย่างช่น การสะสมของไขมันที่เพิ่มขึ้นต่างๆ มากมาย  แสดงว่าวันนี้คุณทานครบ 5 หมู่แต่ไม่ได้สัดส่วนหรือไม่ได้ปริมาณที่เหมาะสม ก็มีโอกาสเกิดผลเสียกับร่างกายได้  ที่สำคัญวันนี้เราจะไว้ใจในอาหารที่เรากินเข้าไปได้มากน้อยแค่ไหน  เราปฎิเสธไม่ได้เลย โดยเฉพาะคนไทยที่นิยมอาหารที่มีรสจัดจ้าน หรืออาหารประเภทปิ้งย่าง หรืออาหารที่มีการดัดแปลง เช่นอาหารแปรรูป พวกไส้กรอก แฮม ต่างๆ รวมถึงอาหารที่อยู่ในภาชนะที่ไม่น่าจะปลอดภัย เช่น อาหารที่ใส่ในกล่อง ซึ่งทุกคนทราบดีว่า กล่องโฟม มันอันตรายเมื่อโดนความร้อนมันจะปล่อยสารพิษออกมา  แต่เราก็ยังใช้มันเพราะมันเป็นความสะดวก หรือ พืชผั ผลไม้ หรืออาหารทะเล เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันไม่มีสิ่งปนเปื้อนมั่นใจได้อย่างไรว่าอาหารที่เรากินเข้าไปไม่ดัดแปลงพันธุกรรม หรืออาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารที่มาจกพืชที่ดัดแปลงพันธุกรรมทั้งสิ้น  ซึ่งมีโอกาสที่จะตกค้างในร่างกายได้ ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งพวกนี้ได้เลย แปลว่าในทุกวันนี้ร่างกายมนุษย์เรามีโอกาสสะสมสิ่งแปลกปลอมเข้ามา หรือสะสมสารพิษมลภาวะต่างๆ อากาศ ควันไอเสียรถ จากโรงงานอุตสาหกรรม จากแหล่งน้ำที่มีสิ่งปนเปื้อน สะสมอยู่ตลอดเวลา  ทำให้ร่างกายทำงานผิดเพี้ยนไป  อาการบางอย่างที่แสดงออกมาในชีวิตประจำวันของเรา บ่งบอกได้เลยว่า ร่างกายของเรา กำลังมีสารพิษตกค้าง ซึ่งจะทำให้ร่างกายผิดปกติในหลายๆ ส่วน อย่างเช่น การย่อยอาหาร  มีอาการปวดท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเสีย  และจะเริ่มมีกลิ่นปาก ผิวหยาบกร้าน เหนื่อยง่าย มีความเครียดสะสม  มีอาการซึมเศร้า ปวดศีรษะ ไมเกรน

 

Myfood  เป็นสารอาหารที่ Low GI คำว่า GI ย่อมาจากคำว่า Glycaemic Index ซึ่งก็คือดัชนีที่ใช้ในการวัดหาค่าความเร็วของการดูดซึมน้ำตาลและแป้งเข้าสู่กระแสเลือด โดยค่า GI ที่เหมาะสม ก็คือจะต้องมีค่าน้อยหรือต่ำ เพื่อให้น้ำตาลถูกย่อยเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้าลงกว่าปกตินั่นเองในปัจจุบัน จำเป็นอย่างมากที่ต้องทานอาหารที่มี Low GI ต่ำ เพื่อจะได้ปลอดโรคแห่งความเสื่อมหลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน อาหาร Hi GI ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะจะทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินได้ เป็นผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาหารที่มีแนวโน้มว่าจะมีค่า GI สูงได้แก่ ข้าวเจ้า อาหารแปรรูปจากแป้งขัดขาว เครื่องดื่มที่ผสมไปด้วยน้ำตาลและน้ำหวาน เป็นต้น โดยอาหารเหล่านี้เมื่อทานเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดกระบวนการย่อยได้ง่ายและถูกแปรเป็นน้ำตาลอย่างรวดเร็ว ตามด้วยถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดในเวลาสั้นๆ นอกจากนี้ในคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ก็ควรเลือกรับประทาน Myfood เพราะ มายฟู้ด อยู่ในกลุ่มที่เป็น Low Glycemic Index Food คนอ้วน จาก โรคเบาหวาน ยิ่งต้องรับประทาน Myfood หรืออาหารอยู่ในกลุ่มที่เป็น Low Glycemic Index Food  เพราะถ้าไปรับประทานน้ำตาลเข้าไปหรืออาหารที่อยู่ในกลุ่ม  HI GI ยิ่งจะไปเพิ่มน้ำตาลในเลือด  ส่งผลให้อินซูลินทำงานได้ไม่ดี จะทำให้น้ำตาลค้างในเลือดสูงและนานขึ้น  จึงควรเลือกอาหารที่มีค่า Low GI ต่ำ   จะส่งผลให้อินซูลิน  ทำงานดีขึ้นเรื่อยๆ ลดการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และไม่เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ

​